วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โครงการพระราชดำริ

โครงการอนุรักษ์สภาพป่าไม้และสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ จังหวัดสงขลา  และ สตูล

ความเป็นมา
               ปัจจุบันพื้นที่ป่าอันเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าทางภาคใต้ถูกทำลายไปเป็นจำนวน
มากถ้าไม่มีการหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าต่อไปในอนาคตจะเกิดความเสียสมดุลทางธรรมชาติ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้จัดทำโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าสวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ขึ้น เพื่อสนอง
พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่จะทรงมีพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ ในปี 2535

วัตถุประสงค์

                1. เพื่ออนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธารของจังหวัดสตูล ให้คงความสมบูรณ์และยั่งยืนตลอดไป
                2. เพื่อพัฒนาและจัดการพื้นที่ป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมีทิวทัศน์สวยงาม และคงความเป็น เอกลักษณ์ของพื้นที่
ให้เป็นสถานที่สำหรับการศึกษาธรรมชาติและพักผ่อนหย่อนใจ
                3. เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้มีความรู้ความเข้าใจและรู้ซึ้งถึงคุณค่าและประโยชน์ที่ได้ รับการอนุรักษ์
ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า
ที่ตั้งโครงการ อำเภอรัตภูมิ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา อำเภอควรกาหลง, อำเภอควรโดม, อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มดำเนินการปี 2539 - 2543 รวม 5 ปี

พื้นที่โครงการ ประมาณ 305,000 ไร่http://siweb.dss.go.th/sci60/team100/project/psouth.htm#สงขลา0
 

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โครงการพระราชดำริ

โครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำมีอำเภอร้องกวางจังหวัดแพร

1. ประวัติโครงการ
                ด้วยนายทรงวุฒิ  งามมีศรี  ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่  ได้มีหนังสือที่  พร. 00152/7520  ลงวันที่ 24 มีนาคม 2538  ถึงอธิบดีกรมชลประทาน  ขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่คำมี  เพื่อจัดหาแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค  รองรับพื้นที่ที่ทางจังหวัดได้เสนอขอจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่  และมหาวิทยาลันเฉลิมพระเกียรติ  รวมทั้งเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรม
                ต่อมานางศิริวรรณ  ปราศจากศัตรู  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่  ได้ติดต่อประสานงานกับสำนักแผนงานและโครงการ  แจ้งว่าได้มีหนังสือขอสนับสนุนจากกรมชลประทานในการสร้างอ่างเก็บน้ำ 4 โครงการ  ได้แก่  อ่างเก็บน้ำแม่คำมี  อ่างเก็บน้ำห้วยโรงใน  อ่างเก็บน้ำผาหมูเหนือและอ่างเก็บน้ำบ้านน้ำพุสูง  อำเภอร้องกวาง  จังหวัดแพร่  เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งแก่เกษตรกรอำเภอร้องกวาง  จังหวัดแพร่  สำนักแผนงานและโครงการได้พิจารณาโครงการแล้ว  ขณะนั้นยังขาดข้อมูลพื้นฐาน  จึงได้มีหนังสือที่  สผค. 1899/3 สค. 41  ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2541  ขอให้สำนักงานชลประทานที่ 2 พิจารณาตรวจสอบข้อมูลและจัดทำรายงานการศึกษาเบื้องต้น
                กลุ่มงานวางโครงการ 3  สำนักแผนงานและโครงการ  ได้พิจารณาข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานชลประทานที่ พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพภูมิประเทศจริงในสนาม  ประกอบการจัดทำรายงานเบื้องต้นของโครงการ  เพื่อกำหนดขอบเขตสำรวจภูมิประเทศและข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการในการพิจารณาศึกษารายละเอียดในขั้นวางโครงการต่อไป  โดยรายงานเบื้องต้นกลุ่มวางโครงการ 3  ได้จัดทำแล้วเสร็จเมื่อเดือน พฤศจิกายน  2543
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
วัตถุประสงค์
1.           เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในการเกษตรกรรม  และการอุปโภค-บริโภค
2.           เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ
3.           เพื่อบรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูฝนของอำเภอร้องกวาง
4.           เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของราษฎร
5.           เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรในเขตพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เป้าหมาย
-          ส่งน้ำช่วยเหลือการเพาะปลูกของราษฎร  จำนวน 1 ตำบล  โดยทดน้ำเข้าฝายเดิมแล้วผันเข้าสู่ระบบเหมืองเดิมต่อไป
3. สถานที่ดำเนินการ
                โครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำมี  ตั้งอยู่ที่  บ้านห้วยโรงใน  หมู่ที่ 4  ต.ห้วยโรง  อ.ร้องกวาง  จ.แพร่  พิกัด 47 QPA 553-399  ระวาง  5045 I  ห่างจากที่ตั้งอำเภอประมาณ 24 กมห่างจากที่ตั้งจังหวัดประมาณ     54 กม.
4. ผลประโยชน์ของโครงการ
-                สามารถส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกทั้งสิ้น  12,500 ไร่
-                เพื่ออุปโภคและบริโภค
-                เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของราษฎรบริเวณใกล้เคียง
5. ความก้าวหน้าของโครงการ
5.1 ด้านออกแบบ
                -          ยังไม่ได้ดำเนินการออกแบบ
5.2 ด้านที่ดิน
                -          ยังไม่ได้ดำเนินการปักหลักเขต
5.3 ด้านป่าไม้
                -          ยังไม่ได้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ป่าไม้
6. ผลการดำเนินงานในปัจจุบัน
                -          อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานวางโครงการ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โครงการพระราชดำริ

โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพพื้นที่บริเวณเขานางพันธุรัต (เขาเจ้าลายใหญ่)อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

พระราชดำริ

เมื่อปี พ.ศ.2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ แปรพระราชฐานประทับ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพระราชกระแสรับสั่งกับแม่ทัพภาคที่ 1 ให้ดำเนินการพื้นฟูบริเวณที่เกิดการถล่มของเขานางพันธุรัต (เขาเจ้าลายใหญ่) พื้นที่บริเวณใกล้เคียง และอนุรักษ์พื้นที่บริเวณเขานางพันธุรัตไว้เป็นมรดกของชาติเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงตำนานที่ได้เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับนางพันธุรัตในวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง ซึ่งเป็นวรรณกรรมอันทรงคุณค่ายิ่งต่อประเทศไทย
ต่อมามีพระราชดำริเพิ่มเติมสรุปได้ดังนี้ 
   ให้มีการประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จัก จะได้ร่วมมือกันในการอนุรักษ์และฟื้นฟู กำหนดขอบเขตโครงการที่แน่นอนสำหรับเขตอันตรายจะต้องประกาศให้ชัดเจน ศึกษาว่าหินจะถล่มลงมาอีกหรือไม่ ศึกษาหาวิธีช่วยเร่งปฏิกิริยาให้หินเปลี่ยนสี
วัถุประสงค์
1.เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพพื้นที่บริเวณเขานางพันธุรัตฯ ไว้เป็นมรดกของชาติ
   2.พัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณเขานางพันธุรัต ด้วยวิธีทางธรรมชาติโดยการบริหารจัดการดำเนินงานและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน
   3.เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ โดยเฉพาะเด็กเยาวชนและประชาชนทั่วไปให้เห็นความสำคัญและคุณค่า รวมทั้งประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ผลการดำเนินการ
ในการจัดทำแผนแม่บทระยะที่ 2 (2548-2550) โดยพิจารณาในภาพรวมของกรอบแผนและแผนรายปี ซึ่งแต่ละหน่วยที่เสนอจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมาย กลยุทธ์ และตอบสนองต่อเป้าหมายของแผน โดยนำประมวลพระราชดำริของพระองค์ท่าน 9 ข้อหลัก ๆ คือ การกำหนดขอบเขตโครงการที่ชัดเจน การอนุรักษ์ให้มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ศึกษาการเปลี่ยนปฏิกิริยาของสีหิน ให้มีการศึกษาเกี่ยวกับการไหลของน้ำ ศึกษาว่าหินจะถล่มลงมาอีกเมื่อไร การอนุรักษ์เหมืองหินปูน เขามันหมู เขาถ้ำโหว่ การปลูกต้นไม้ริมทาง ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ ซึ่งแผนในระยะที่ 1 ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ อีกทั้งยังนำมาสู่วิสัยทัศน์ที่คณะกรรมการร่วมกันพิจารณาคือ ยึดแนวพระราชดำริ เพื่อสนองพระราชดำริให้ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักการทำงานแบบองค์รวมทุกมิติเชื่อมโยงกัน ทั้งในแง่ของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ โดยใช้แผนเป็นตัวชี้นำ ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานจะ

ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
1)ด้านการฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ
  • การปลูกต้นไม้ฟื้นสภาพป่า โดยจัดตั้งเรือนเพาะชำกล้าไม้และพันธุ์พืชธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น จำนวน 10,000 กล้า/ปี พร้อมทั้งปลูกพืชเบิกนำเพื่อฟื้นสภาพดินและสภาพธรรมชาติให้กลับมาดังเดิม
  • ปลูกเสริมและบำรุงรักษาพืชที่ปลูกเป็นระยะ ๆ ปลูกปีละ 100 ไร่ พื้นที่เป้าหมาย 300 ไร่
  • การจัดเวรยามระวังและป้องกันไฟป่าในเขตพื้นที่โครงการ
  • ดำเนินการสำรวจพื้นที่เพื่อกำหนดแนวเขตวนอุทยานแนวเขตชุมชนเกษตรกรรมและเหมืองแร่
  • จัดทำป้ายเขต หลักเขตวนอุทยาน โดยให้มีลักษณะกลมกลืนกับธรรมชาติ และมีความแข็งแรงหรือถนนรอบแนวเขต



2)ด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  • การฝึกอบรมเยาวชนและนักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในการอนุรักษ์เขานางพันธุรัต
  • การศึกษาสำรวจสภาพนิเวศป่า สัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์ความรู้ทางธรรมชาติ
  • จัดทำปรับปรุงและซ่อมแซมถนนทางเดินศึกษาธรรมชาติ
  • จัดทำแหล่งเก็บกักน้ำ จำนวน 2 แห่ง
  • การวางแนวระบบไฟฟ้าหลักในพื้นที่โครงการ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
  • การศึกษาวิจัยเพาะพันธุ์สาหร่ายและผลกระทบจากการใช้สารเคมีเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนสีหิน เป็นการทดลองการฟื้นฟูธรรมชาติด้วยวิธีทางธรรมชาติที่ประหยัด ซึ่งขณะนี้รอผลการวิเคราะห์

3)ด้านการบริหารจัดการ
  • การรณรงค์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยการจัดทำข้อมูล ข่าวสาร เพื่อเผยแพร่ทางสื่อมวลชนในลักษณะขอความร่วมมือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาทำให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น จำนวน 23,257 คน ในปี 2548
  • สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการในท้องถิ่นในการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ แนวทาง และกิจกรรมในการดำเนินงานโครงการ
  • ทำการศึกษาการเจริญเติบโตของสาหร่ายแกมเขียว สามารถเจริญเติบโตได้ดีและจะหยุดชะงักหรือไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีกในช่วงฤดูแล้ง หรือถ้ามีต้นไม้โตเร็วมาบังก็จะทำให้เจริญเติบโตได้อีก ส่วนสีที่นำมาใช้ในการเปลี่ยนสีหินแทนการนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ผลการศึกษาทดลองพบว่าไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด
    เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จจะทำให้เกิดการรักษาความมั่นคงสมดุลของสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับเป็นแหล่งศึกษา ทดลอง และเรียนรู้ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณค่า อันนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคงความสมดุลของระบบนิเวศน์วิทยา อีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาการบุกรุกที่ดินทำกินและล่าสัตว์ป่าอีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา:http://www.rdpb.go.th/RDPB/Front/Projects/ImportantDetail.aspx?projectid=34

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำอวยพรเปิดภาคเรียนใหม่...แด่เพื่อนๆ

เปิดภาคเรียนใหม่แล้วขอให้เพื่อนๆมีความสุขในการเรียนกันทุกๆคนขอให้สมปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างที่เพื่อนๆต้องการให้มีอายุที่ยืนยาวมีเงินใช้เยอะๆขอให้ได้เกรดดีๆกันทุกคน
                                                                 สุดท้าย
                                                  อายุ   วันโน  สุขัง  พลัง